ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท
บริษัท เมทเทคโน คือ กลุ่มธุรกิจระหว่างประเทศที่ดำเนินธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์ประเภทแผ่นฉนวนสำเร็จรูป บริษัทในเครือแห่งแรกก่อตั้งขึ้นในประเทศอิตาลีในปี ค.ศ.1960 ส่วนใหญ่ดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับงานหลังคาและงานผนังสำหรับสิ่งปลูกสร้างในเชิงอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์ แผ่นผนังโลหะหุ้มฉนวน แผ่นเหล็กรีดลอน และส่วนโลหะ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนประกอบพื้นฐานในการปฏิวัติวิธีการก่อสร้าง
ความรู้และความเชี่ยวชาญที่บริษัทสร้างขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก่อตัวขึ้นเป็นพื้นฐานในการขยายตัวของธุรกิจไปยังส่วนต่างๆ ในโลก ปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีสถานประกอบการผลิตอยู่ในกว่า 12 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศบัลแกเรีย ประเทศชิลี ประเทศจีน ประเทศโคลัมเบีย ประเทศเยอรมัน ประเทศอินเดีย ประเทศอิตาลี ประเทศเม็กซิโก ประเทศสเปน ประเทศศรีลังกา ประเทศไทย และ ประเทศเวียดนาม
นับตั้งแต่กลุ่มบริษัท เมทเทคโน ก่อตั้งขึ้น บริษัทดำเนินการผลิตและจัดจำหน่ายแผ่นฉนวนกันความร้อนจำนวนมากกว่า 300 ล้านตารางเมตร และได้ดำเนินการติดตั้งแล้วในทั่วทุกมุมโลก
ความรู้และความเชี่ยวชาญที่บริษัทสร้างขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก่อตัวขึ้นเป็นพื้นฐานในการขยายตัวของธุรกิจไปยังส่วนต่างๆ ในโลก ปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีสถานประกอบการผลิตอยู่ในกว่า 12 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศบัลแกเรีย ประเทศชิลี ประเทศจีน ประเทศโคลัมเบีย ประเทศเยอรมัน ประเทศอินเดีย ประเทศอิตาลี ประเทศเม็กซิโก ประเทศสเปน ประเทศศรีลังกา ประเทศไทย และ ประเทศเวียดนาม
นับตั้งแต่กลุ่มบริษัท เมทเทคโน ก่อตั้งขึ้น บริษัทดำเนินการผลิตและจัดจำหน่ายแผ่นฉนวนกันความร้อนจำนวนมากกว่า 300 ล้านตารางเมตร และได้ดำเนินการติดตั้งแล้วในทั่วทุกมุมโลก
บริษัท เมทเทคโน ประเทศไทย
บริษัท เมทเทคโน พาเนลลี่ ประเทศไทย เป็นบริษัทลงทุนอิตาลี 100% ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2000 และบริษัทมีสถานประกอบการผลิตตั้งอยู่ใน ตำบลสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ บริษัทเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำของผลิตภัณฑ์ประเภทแผ่นฉนวนสำเร็จรูปที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในการก่อสร้างห้องสะอาด (Clean rooms) ห้องแช่แข็งและห้องเย็น (Freezer & Chiller rooms) งานหลังคาและผนังกั้นที่ใช้กับสิ่งปลูกสร้างในอุตสาหกรรม นอกจากนี้บริษัทยังเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำในด้านผลิตภัณฑ์ประเภทประตูและหน้าต่างสำหรับห้องสะอาด (Clean rooms) และห้องเย็น (Cold rooms) อีกด้วย
นับตั้งแต่บริษัท เมทเทคโน พาเนลลี่ ก่อตั้งขึ้น บริษัทดำเนินการผลิตและจัดจำหน่ายแผ่นฉนวนสำเร็จรูปแล้วกว่า หนึ่งล้านตารางเมตร ให้กับโครงการต่างๆ กว่า 500 แห่ง ทั้งสำหรับใช้ในงานเซมิคอนดักเตอร์, อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, ชิ้นส่วนโลหะที่มีความละเอียดถูกต้องและแม่นยำ, เทคโนโลยีชีวภาพ, เวชภัณฑ์, การแปรรูปอาหาร, ร้านสะดวกซื้อ, โครงกำบัง ตลอดจนหลังคาและผนังกั้นที่ใช้กับสิ่งปลูกสร้างในอุตสาหกรรม
ผลิตภัณฑ์ของบริษัทไม่ได้จำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังมีการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศบังคลาเทศ ประเทศกัมพูชา ประเทศอินเดีย ประเทศลาว ประเทศมอริเชียส ประเทศสิงคโปร์ ประเทศเวียดนาม เป็นต้น นอกจากผลิตและจัดจำหน่ายแล้ว บริษัทยังมีเจ้าหน้าที่บริการเขียนแบบโดยเฉพาะซึ่งทำหน้าที่จัดทำแบบแสดงรายละเอียดเพื่อการก่อสร้าง (Shop Drawing) และ มีเจ้าหน้าที่ผู้มีประสบการณ์สูงในด้านการติดตั้งผลิตภัณฑ์คอยให้คำแนะนำ และควบคุมการติดตั้ง
นับตั้งแต่บริษัท เมทเทคโน พาเนลลี่ ก่อตั้งขึ้น บริษัทดำเนินการผลิตและจัดจำหน่ายแผ่นฉนวนสำเร็จรูปแล้วกว่า หนึ่งล้านตารางเมตร ให้กับโครงการต่างๆ กว่า 500 แห่ง ทั้งสำหรับใช้ในงานเซมิคอนดักเตอร์, อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, ชิ้นส่วนโลหะที่มีความละเอียดถูกต้องและแม่นยำ, เทคโนโลยีชีวภาพ, เวชภัณฑ์, การแปรรูปอาหาร, ร้านสะดวกซื้อ, โครงกำบัง ตลอดจนหลังคาและผนังกั้นที่ใช้กับสิ่งปลูกสร้างในอุตสาหกรรม
ผลิตภัณฑ์ของบริษัทไม่ได้จำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังมีการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศบังคลาเทศ ประเทศกัมพูชา ประเทศอินเดีย ประเทศลาว ประเทศมอริเชียส ประเทศสิงคโปร์ ประเทศเวียดนาม เป็นต้น นอกจากผลิตและจัดจำหน่ายแล้ว บริษัทยังมีเจ้าหน้าที่บริการเขียนแบบโดยเฉพาะซึ่งทำหน้าที่จัดทำแบบแสดงรายละเอียดเพื่อการก่อสร้าง (Shop Drawing) และ มีเจ้าหน้าที่ผู้มีประสบการณ์สูงในด้านการติดตั้งผลิตภัณฑ์คอยให้คำแนะนำ และควบคุมการติดตั้ง
วิสัยทัศน์ของเรา
เพื่อเป็นผู้จัดหาสินค้าและบริการอันดับ 1 ด้านระบบแผ่นฉนวนสำเร็จรูป (Sandwich Panel System) ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ กลุ่มบริษัท เมทเทคโน
พันธกิจของเรา
- เพื่อเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในด้านการนำเสนอนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์
- เพื่อมอบความร่วมมือสนับสนุนให้แก่ลูกค้าเพื่อการคู่ค้าเติบโตไปด้วยกัน
- เพื่อเป็นบริษัทที่มีประสิทธิผลและก่อให้เกิดผลกำไรมากที่สุดในกลุ่มธุรกิจ
- เพื่อดึงความสามารถ และประสบการณ์ของทีมผู้บริหารมาใช้อย่างสูงสุด